B.Care Medical Center | โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์
02 532 4444
ติดต่อสอบถาม 02 532 4444
หน้าแรก / บทความสุขภาพ / EST EKG ECHO คืออะไร?... ตรวจหัวใจวิธีไหน เหมาะกับคุณ
EST EKG ECHO คืออะไร?... ตรวจหัวใจวิธีไหน เหมาะกับคุณ
14 กันยายน 2022

หัวใจเป็นอวัยวะที่สำคัญ หากหัวใจทำงานผิดปกติแล้วย่อมส่งผลกระทบต่อระบบอื่น ๆ ของร่างกายอีกมากมายการตรวจสุขภาพหัวใจ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกายด้วยการเดินสายพาน (Exercise Stress Test : EST) , การตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูง(Echocardiography: ECHO) และ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)  ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักการตรวจแต่ละวิธี เพื่อการเตรียมตัวที่ควรทราบ ดังนี้


1. การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกายด้วยการเดินสายพาน (Exercise Stress Test : EST)

เป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัยภาวะหัวใจขาดเลือดขณะออกกำลังกาย ขณะที่ผู้ป่วยออกกำลังกายแพทย์จะสังเกตการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และ การตอบสนองที่ผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก เจ็บแน่นหน้าอก หรือ มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ หากมีอาการเหล่านี้ อาจบ่งชี้ได้ว่ามีภาวะการขาดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจในระหว่างการออกกำลังกาย

  • ข้อดี : ผู้ป่วยไม่เจ็บตัว ทำให้ทราบโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นหลอดเลือดหัวใจตีบหรือไม่
  • ข้อจำกัด : ไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างหัวใจ และไม่สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับขา ข้อ หรือเข่า และผู้ป่วยอายุมาก

 

2. การตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูง (Echocardiography: ECHO)

เป็นการตรวจวัดประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ เช่น การบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ขนาดของห้องหัวใจ การไหลเวียนเลือดในหัวใจโดยการใช้คลื่นความถี่สูง เมื่อคลื่นความถี่สูงผ่านอวัยวะต่าง ๆ จะเกิดสัญญาณสะท้อนกลับ และ คอมพิวเตอร์จะประมวลสัญญาณนี้ออกมาเป็นภาพ ให้เห็นถึงการทำงานของหัวใจ สามารถใช้วินิจฉัยโรคหัวใจแต่กำเนิด โรคลิ้นหัวใจตีบ, โรคลิ้นหัวใจรั่ว, กล้ามเนื้อหัวใจตาย, ภาวะหัวใจโป่งพอง และโรคของเยื่อหุ้มหัวใจ เป็นต้น

  • ข้อดี : ผู้ป่วยไม่เจ็บตัว มองเห็นการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ และ ลิ้นหัวใจ โดยไม่ต้องอดอาหาร
  • ข้อจำกัด : ไม่เห็นเส้นเลือดหัวใจ และอาจมองเห็นไม่ชัดเจนในผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือ ในผู้ป่วยโรคอ้วน เพราะไขมันอาจขัดขวางคลื่นความถี่สูงได้

 

3. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) 

เป็นการตรวจกระแสไฟฟ้าและจังหวะการเต้นของหัวใจ โดยปกติแล้วหัวใจจะปล่อยไฟฟ้าออกมาเป็นจังหวะ เพื่อให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัว การตรวจ EKG ทำได้โดยการติดตัวรับกระแสไฟฟ้าตามตำแหน่งต่าง ๆ ได้แก่ แขน  ขา  ข้อมือ  
ข้อเท้า และหน้าอก รวม 10 จุด จากนั้น เครื่องจะประมวลผลออกมาเป็นกราฟหัวใจให้เห็น สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับหัวใจ เช่น จังหวะการเต้น ความสม่ำเสมอ การนำไฟฟ้าในหัวใจ  ชนิดของการเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจตาย กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความผิดปกติของระดับเกลือแร่บางชนิด เป็นต้น

  • ข้อดี : ผู้ป่วยไม่เจ็บตัว ค่าใช้จ่ายไม่แพง
  • ข้อจำกัด : ไม่ได้บอกความผิดปกติของลิ้นหัวใจ หรือหลอดเลือดหัวใจโดยตรง
บทความสุขภาพ
Copyright © 2020 Bcaremedicalcenter. All Rights Reserved.